Testimonials

จุดเริ่มต้นในการเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจครอบครัว

สิงหาคม 2565

ย้อนเวลาไปเกือบ 20 ปี คุณมิ้ง-กฤตรินทร์ ลิ้มราบรื่น ได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งช่องเครื่อ ธุรกิจผู้แทนจำหนายและศูนย์บริการรถยนต์ของครอบครัวที่สร้างชื่อเสียงมายาวนานกว่า 30 ปี แน่นอนว่าจุดเริ่มต้นบนเส้นทางสายยานยนต์มีความท้าทายไม่น้อยสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความรักที่มีให้กับการทำงาน จึงส่งให้สวนหลวงออโต้เฮ้าส์ ที่อยู่ในความดูแลของเธอเติบใตอย่างต่อเนื่องและมีรางวัลที่ช่วยสะท้อนความสำเร็จมากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมาจุดเริ่มต้นในการเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจครอบครัว"ครอบครัวเราทำธุรกิจรถยนต์มานานกว่า 30 ปีตั้งแต่มึ้งยังเด็ก เราเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์หลากหลายแบรนตั้ ทั้งเมอร์เซเดส-เบนซ์ ฮอนต้า มิตซูบิชิและฮีโน่ ปัจจุบันมีโซและศูนย์บริทารรวม 11 แห่งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล"ถ้ำานับย้อนเวลาที่ใด้เข้ามาทำธุรกิจกับครอบครัวน่าเกือบซะ 20 ปีแล้ว หลังจากที่เรียนจบกลับมา มีโอกาสไปทำงานต้านการตลาดกับบริษัทข้างนอกสักพักหนึ่ง แล้วก็เข้ามาทำงานกับครอบครัวตอนอายุ24 ปี รับผิดชอบในส่วนของสวนหลวงออโต้เฮ้าส์ ดูแลแบรนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์"

การนับหนึ่งแบบไม่มีครู
"เราทราบอยู่แล้วว่าต้องกลับมาช่วยธุรกิจของครอบครัว ก่อนจะเข้ามาทำงาน ก็มีความกังวลคล้ายๆกับคนทั่วไปคือ กลับมาทำงานที่บ้านแล้วจะเข้ากับคนในองค์กรได้ไหม รู้สึกเหมือนเป็น one way ticketสมมุติว่าทำแล้วเกิดไม่ชอบขึ้นมา จะไปทำธุรกิจเองก็อาจจะยาก พอได้เริ่มทำงานจริงๆ หนึ่งในปัญหาหลักคือ เนื่องจากได้รับความไว้วางใจมากเป็นพิเศษ ทุกคนปล่อยให้เราลุยเองเลย ซึ่งยากเหมือนกันเราเคยทำการตลาดมาก็จริงแต่การบริหารงานดีลเลอร์มีรายละเอียดเยอะ มีเรื่องเชิงเทคนิค พนักงานในองค์กรมีตั้งแต่ช่างไปจนถึงผู้บริหาร ซึ่งค่อนข้างแตกต่างจากองค์กรที่เราเคยทำงานอยู่ เหมือนเป็นการนับหนึ่งแบบไม่มีครูทุกอย่างต้องไปเรียนรู้เองทั้งหมด มาถึงวันนี้แล้วมองย้อนกลับไป ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องดี เราได้เรียนรู้ทุกฟังก์ชั่น พูดคุยกับคนทำงานทั้งหมด รู้ว่าแต่ละแผนกส่งไม้ต่อกันอย่างไร ประสบทารณ์ในช่วง 2 - 3 ปีแรกทำให้เข้าใจธุรกินี้อย่างแท้จริง เวลามีปัญหาเกิตขึ้นเรารู้ว่าจะต้องเริ่มแก้จากตรงไหน"


พิสูจน์ฝีมือด้วยงานพัฒนาองค์กรและบริการหลังการขาย
"เริ่มเข้ามาดูแลธุรกิจในส่วนงานพัฒนุาองค์กรธุรกิจเมอร์เซเดส-เบนซ์ในช่วงของปีที่มึงเริ่มเข้ามาทำงาน ทางเยอรมันได้เข้ามามีบทบาทในการบริหารงานมากขึ้นมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้เป็นไปตามมาตรฐานของเขา หลักๆ คือ การนำซอฟต์แวร์เข้ามาใช้ ซึ่งเรามีการเตรียมตัวส่วงหน้ามานานพอสมควร เพื่อที่จะมาถึงยุคติจิทัสในวันนี้ ณ เวลานั้นเราทำการรื้อทั้งระบบเพื่อเตรียมความพร้อม เมื่อถึงวันที่ระบบทุกอย่างต้องอัพเดต เราจึงสามารถเดินไปช้างหน้าได้อย่างราบรื่น

"อีกส่วนหนึ่งที่เข้าไปดูแลคือบริการหลังการขาย
ช่วง 10 - 20 ปีที่แล้ว อาจไม่ใต้มีใครพูดถึงการบริการมากเท่าในปัจจุบัน การบริการที่ดีในสมัยก่อนเป็นสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามา แต่สำหรับองค์กรของเรา การบริการถูกยกให้เป็นหัวใจที่สำคัญที่สุดตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจ ลูกค้าจะซื้อรถที่ไหนก็ได้ แต่ถ้าเราสามารถมอบบริการหลังการขายที่สร้างความประทับใจ วันหน้าเขาจะกลับมาขี้ยซ้ำ กลับมาใช้บริการของเราอีก เพราะฉะนั้นในส่วนของการบริการ เราแทบจะเป็นดีลเลอร์แรกๆ ที่ลงไปโฟกัสเรื่องนี้อย่างจริงจัง จนกระทั่งวันนี้ก็เป็นบทพิสูจน์ว่า สิ่งนี้คือแกนหลักที่ทำให้เราตำเนินธุรกิจมาได้จนถึงทุทวันนี้"

เมอร์เซเดส-เบนซ์ คือแบรนด์ที่ใช่

"เราทำธุกิจกับรถยนต์หลายแบรนด์ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายก็จะแดกต่างกันชัดเจน อุย่างเมอร์เซเดส-เบนช์เน้นความเป็นโมเดิร์นลักซ์ชัวรี ยิ่งกับเฉพาะลูกค้าในประเทศไทย เบนซ์เป็นแบรนด์ในดวงใจของหลายคน มีความคาดหวังทั้งในตัวผลิตภัณฑ์และบริการที่สูงกว่าแบรนด์อื่นๆ จริงๆ แล้วมิ้งเคยเข้าไปทำงานในส่วนของมิตซูบิชิมาพักหนึ่ง แต่ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ทางของตัวเองเท่าไร ด้วยไลฟ์สไตล์และสิ่งที่เราตั้งใจจะสื่อสาร รู้สึกว่าเข้ากับกลุ่มเป้าหมายของเมอร์เซเดส-เบนซ์มากกว่าที่สำคัญทางแบรนด์เปิดใอกาสให้เราทำกิจกรรมกับลูกค้าได้ค่อนข้างหลากหลาย มีงานด้านการสื่อสารการตลาดที่ส่วนตัวก็ชอบอยู่แล้ว พอมาอยู่ในแบรนด์ที่ค่อนช้างแอ็กทีฟในเรื่องนี้ มันเหมือนเราก็ได้นำความรู้เก่ามาใช้ ได้ทำงานที่ตัวเองรัก พร้อมๆ กับดูแลและบริหารกิจการของครอบครัวไปด้วย"

ผู้หญิงกับวงการยานยนต์

"อุตสาหกรรมนี้มีสัตส่วนคนทำงานเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิงโดยธรรมซาติ ในมุมของตัวเองไม่ได้คิดในแง่ว่าจะทำงานได้เหมือนผู้ชายหรือเปล่า แต่เรามองในเรื่องความรู้พื้นฐาน หรือความสนใจมากกว่าอย่างเราอาจจะสนใจรถยนต์ แต่เป็นเรื่องของดีไซน์ในขณะที่ผู้ชายอาจจะสนใจในเชิงเทคนิด พอมาทำงานในอุดสาหารรมที่มีผู้ชายทำงานกันค่อนข้างจะเยอะ อาจจะเป็นทั้งเรื่องที่แะไม่ดี เรื่องไม่คีอเราอาจจะเหงาหน่อยเวลาเราไปประชุมที่จะมีแต่คุณสุภาพบุรุษ แต่มองในแง่ดี เราจะเป็นคนที่สามารถลงดีเทลในส่วนที่คนอื่นไม่ลงกัน เช่น มิ้งเป็นผู้หญิง แล้วไปทำงานศูนย์บริการ ดูแลฝั่งบริการหลังการขาย สำหรับคนที่ไม่รู้จักธุรกิจนี้จะคิดว่า ทำไมถึงส่งสูกสาวมาอยู่ในส่วนของการซ่อมรถ แต่มันกลายเป็นว่าเราสามารถใช้ทักษะของตัวเองในทารไปรับรู้ความต้องการของลูกค้า ไปพัฒนาการบริการให้ดีขึ้น สามารถสื่อสารกับหน้างานที่เป็นช่างเทศนิด ด้วยความเป็นผู้หญิงที่มี soft skillเยอะกว่า อาจจะมีวิธีการคุยว่า ทำอย่างไรเราถึงจะทำให้องค์กรโดดเด่นในด้านทารบริการได้มากขึ้น"

หัวใจสำคัญของการบริหารงานคือ เอาใจเขามาใส่ใจเรา
"การเอาใจเขามาใส่ใจเรา เหมือนเป็นประโยคง่ายๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่มิ้งยืดถือมาโดยดลอด ในมุมของผู้บริหารกับพนักงาน มันเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญที่ทำให้เราสามารถเป็นผู้นำองค์กรที่ดีใด้เราพยายามจะเข้าใจพนักงานทุกคน ทุกแผนก บางครั้งผลตอบแทนอย่างเดียวอาจจะไม่ใช่คำตอบของทุกคน เขาอาจจะต้องการความก้าวหน้าในอาชีพ วันนี้เข้ามาทำงานตำแหน่งหนึ่ง อนาคตข้างหน้าเขาจะไปต่อที่ตำแหน่งไหน ต้องดูแลเขาในเรื่องรายใด้ให้มีความเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ เรื่อยไปจนถึงการดูแสสมาชิกในครอบครัวของเขา มิ้งเชื่อว่าการพัฒนาคนเป็นเรื่องที่ต้องลงทุน ฉะนั้นเมื่อเรามีคนที่ดีและมีแนวความคิดเดียวกับเราแล้ว ต้องรักษาเขาไว้ให้อยู่กับองค์กรได้นานที่สุด"สำหรับมุมของลูกค้า เราก็เอาใจเขามาใส่ใจเราเหมือนกัน ทุกครั้งที่คุยกับพนักงานจะเน้นย้ำเสมอว่า เวลาให้บริการลูกค้า เราต้องพยายามคิดว่าลูกค้าต้องการอะไร ไม่ใช่เราอยากขายอะไร พยายามตอบสนองสิ่งที่ลูกค้าต้องการให้ได้ ไม่ยัดเยียดขายของ อย่างเช่น บางทีคนที่เน้นขายของ อาจเสนอให้เปลี่ยนนั่น เปลี่ยนนี่ เยอะแยะไปหมด แต่เราจะบอกพนักงานว่า ในฐานะที่เราเป็นศูนย์บริการ เรามีหน้าที่ให้คำปรึกษาว่าส่วนไหนที่จำเป็นจะต้องเปลี่ยน ถ้ำไม่เปลี่ยนจะมีผลต่อความปสอดภัย แบบนี้ต้องแนะนำให้ลูกค้าเปลี่ยน แต่สำหรับส่วนที่ยังไม่จำเป็น ก็เก็บไว้เป็น recommended list ได้ นี่คือดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ที่ปลูกฝังให้กับทีมงานเสมอ"


โดย นิตยสาร HELLO

Contact Us

  • 1114, Srinakarin Road, Onnut,
    Suanluang, Bangkok 10250
  • Tel. 02 322 5999
    Fax 02 322 5998